วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ความตกลงเชงเก้น
ป้ายข้ามเขตแดนระหว่างประเทศเยอรมนีและประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มเชงเกนซึ่งไม่มีป้อมตรวจคนเข้าเมือง
ความตกลงเชงเกน (อังกฤษ: Schengen Agreement) เป็นความตกลงระหว่างประเทศส่วนใหญ่ในทวีปยุโรปอันให้สัตยาบันเมื่อ พ.ศ. 2528 สาระสำคัญเป็นการอนุญาตให้สมาชิกในกลุ่มสามารถเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องถือหนังสือเดินทาง ข้อตกลงนี้มีผลต่อประชากร 4,000,000 คนใน 24 ประเทศ (21 ธันวาคม พ.ศ. 2550) ครอบคลุมเนื้อที่ 4,268,633 ตารางกิโลเมตร (1,648,128 ตารางไมล์) นอกจากนั้นยังให้การอนุญาตชั่วคราวกับผู้ถือใบอนุญาตเชงเกน (Schengen Visa) มีสิทธิในการเดินทางได้ชั่วคราวในประเทศสมาชิกโดยถือใบอนุญาตใบเดียว ตามสนธิสัญญาอัมส์เตอร์ดัม (Treaty of Amsterdam) ข้อตกลงและตัดสินใจทุกข้อของความตกลงเชงเกนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายของสหภาพยุโรป
ประเทศที่ลงนามในความตกลงฉบับนี้มีด้วยกัน 30 ประเทศรวมทั้งประเทศในสหภาพยุโรปทุกประเทศ และประเทศนอกสหภาพอีก 3 ประเทศคือ ประเทศไอซ์แลนด์ ประเทศนอร์เวย์ และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันมี 26 ประเทศที่ใช้ความตกลงนี้ สหราชอาณาจักรยังมิได้ใช้กฎนี้ หลังจากที่มีการปฏิบัติข้อตกลงนี้ด่านหรือป้อมตรวจคนเข้าเมืองของประเทศที่อยู่ในเครือเชงเกนก็ถูกรื้อทิ้ง[1]
ประเทศสมาชิกเชงเกนEdit
ประเทศที่อนุญาตให้ประชาชนในกลุ่มเชงเกนสามารถเดินทางระหว่างกันโดยไม่ต้องถือหนังสือเดินทาง และประชาชนจากประเทศนอกกลุ่มเชงเกนเดินทางระหว่างประเทศเชงเกนได้โดยใช้ใบอนุญาตเพียงใบเดียว - ใบอนุญาตเชงเกน (Schengen Visa) ประเทศสมาชิกทั้งหมดหลังจากการเข้าร่วมเพิ่มในเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2551 ประกอบด้วย
ประเทศเบลเยียม
ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศอิตาลี
ประเทศลักเซมเบิร์ก
ประเทศเนเธอร์แลนด์
ประเทศเดนมาร์ก
ประเทศกรีซ
ประเทศโปรตุเกส
ประเทศสเปน
ประเทศเยอรมนี
ประเทศออสเตรีย
ประเทศฟินแลนด์
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศสวีเดน
ประเทศนอร์เวย์
ประเทศไอซ์แลนด์
ประเทศมอลตา
สาธารณรัฐเช็ก
ประเทศเอสโตเนีย
ประเทศฮังการี
ประเทศโปแลนด์
ประเทศสโลวาเกีย
ประเทศสโลวีเนีย
ประเทศลัตเวีย
ประเทศลิทัวเนีย
ประเทศโมนาโก
ประเทศไซปรัส เลื่อนการอนุญาตไปหนึ่งปี ประเทศบัลแกเรีย และ ประเทศโรมาเนีย ยังอยู่ในการพิจารณา
ดอกดาหลา
ต้นดาหลา (ชื่อวิทยาศาสตร์: Etlingera elatior (Jack) R.M. Smith) เป็นพืชล้มลุกประเภทใบเลี้ยงเดี่ยวชนิดหนึ่งซึ่งมีดอกที่สวยงาม มีความนิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอก ที่อยู่ในวงศ์ขิง( Zingiberales) ซึ่งจัดเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับขิงและข่านั้นเอง ส่วนลำต้นดาหลาจะอยู่ใต้ดินที่พวกเราเรียกว่าเหง้าซึ่งเหง้าที่พูดถึงนี้จะเป็นจุดกำเนิดของหน่ออ่อนของทั้งต้นและดอกดาหลาต่อไป
ต้นดาหลานอกจากจะนำมาเป็นไม้เพื่อชมความสวยงามของดอกแล้วยังสามารถนำดอกมาประกอบอาหารได้และก็มีคุณค่าทางสมุนไพรสูงมากด้วย
สายพันธุ์Edit
ดอกสีแดงได้แก่ พันธุ์บัวแดงใหญ่ พันธุ์แดงอินโด
ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์บานเย็น
การศึกษาทางด้านสารเคมีของดาหลาพบสารสำคัญในกลุ่ม phenolics และ flavonoids ทั้งในส่วนของใบ ดอก และเหง้า ซึ่งล้วนแต่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่น โดยมีลำดับความแรงดังนี้ สารสกัดจากส่วนใบ > สารสกัดจากส่วนดอก > สารสกัดจากส่วนเหง้า นอกจากนี้ยังพบฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย (จากน้ำมันหอมระเหยและใบ) ฤทธิ์ต้านความเป็นพิษต่อตับ (จากช่อดอก) ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase (จากใบ) และฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง (จากเหง้า) แต่ทั้งหมดยังเป็นเพียงการศึกษาในระดับเซลล์ หลอดทดลอง และสัตว์ทดลองเท่านั้น สำหรับการศึกษาความเป็นพิษ ยังไม่มีการรายงานความเป็นพิษของพืชชนิดนี้ อีกทั้งการรับประทานในรูปแบบของอาหารก็มีความปลอดภัยสูง แต่สำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้ ขิง ข่า ไพล หรือพืชในวงศ์ ZINGIBERACEAE ควรเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานดาหลา เนื่องจากเป็นพืชวงศ์เดียวกัน อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
ต้นดาหลานอกจากจะนำมาเป็นไม้เพื่อชมความสวยงามของดอกแล้วยังสามารถนำดอกมาประกอบอาหารได้และก็มีคุณค่าทางสมุนไพรสูงมากด้วย
สายพันธุ์Edit
ดอกสีแดงได้แก่ พันธุ์บัวแดงใหญ่ พันธุ์แดงอินโด
ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์บานเย็น
การศึกษาทางด้านสารเคมีของดาหลาพบสารสำคัญในกลุ่ม phenolics และ flavonoids ทั้งในส่วนของใบ ดอก และเหง้า ซึ่งล้วนแต่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่น โดยมีลำดับความแรงดังนี้ สารสกัดจากส่วนใบ > สารสกัดจากส่วนดอก > สารสกัดจากส่วนเหง้า นอกจากนี้ยังพบฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย (จากน้ำมันหอมระเหยและใบ) ฤทธิ์ต้านความเป็นพิษต่อตับ (จากช่อดอก) ฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase (จากใบ) และฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง (จากเหง้า) แต่ทั้งหมดยังเป็นเพียงการศึกษาในระดับเซลล์ หลอดทดลอง และสัตว์ทดลองเท่านั้น สำหรับการศึกษาความเป็นพิษ ยังไม่มีการรายงานความเป็นพิษของพืชชนิดนี้ อีกทั้งการรับประทานในรูปแบบของอาหารก็มีความปลอดภัยสูง แต่สำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้ ขิง ข่า ไพล หรือพืชในวงศ์ ZINGIBERACEAE ควรเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานดาหลา เนื่องจากเป็นพืชวงศ์เดียวกัน อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ประวัติ Alberto Contador
Contador's career has been marked by doping allegations. The Operación Puerto doping case led his Astana-Würth team (a team unrelated to the current Astana team) to withdraw en masse from the 2006 Tour de France before it began. He was eventually cleared of any wrongdoing. In September 2010, Contador announced that he had tested positive for clenbuterol in a control taken during that year's Tour de France, in which he finished as winner, but although he was suspended during an investigation, he was cleared by the RFEC. A review by the Court of Arbitration for Sport initially set for June 2011was later deferred several times until February 2012, when the CAS decided that Contador be stripped of the results obtained in the 2010 Tour de France and later, which also caused him to lose his 2011 Giro d'Italia victory. He was also suspended until 5 August 2012, and his contract with Team Saxo Bank was annulled.Upon the completion of his ban, Contador rejoined the renamed Saxo Bank-Tinkoff Bank.
อัลเบร์โต กอนตาดอร์ เบลัสโก (สเปน: Alberto Contador Velasco) เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1982 เป็นนักแข่งขันจักรยานถนน ทีมอัสตานา ของยูซีไอโปรทัวร์ เขาเป็นผู้ชนะการแข่งขันตูร์เดอฟรองซ์ 2007 กับทีมดิสคัฟเวอรีแชนเนล และ จีโรดีตาเลีย 2008, วูเอลตาอาเอสปันญา 2008 และ 2009 และตูร์เดอฟรองซ์ 2009 และ 2010 กับทีมอัสตานา เขาเป็นนักแข่งขันจักรยานคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ และเป็นชาวสเปนคนแรกที่ชนะการแข่งขันทั้ง 3 ของแกรนด์ทัวร์า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)